ความหมายของภาษีที่แท้จริง
การบริหารงบประมาณแผ่นดินของประเทศ
รัฐบาลต้องบริหารงบ 3 ด้าน ได้แก่ งบรายได้
งบรายจ่าย และหนี้สาธารณะ
การบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพจะส่งผลให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองและมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
รายได้ของรัฐบาลมาจาก 2
ส่วนใหญ่ๆ คือ รายได้ที่มาจากภาษีอากร และรายได้ที่มาจากแหล่งอื่น
เช่น กำไรจากรัฐพาณิชย์ และค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นต้น แต่ 80-90% ของรายได้ภาครัฐมาจากภาษีอากร
ดังนั้นจึงถือได้ว่าภาษีอากรเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐบาล
การที่ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้มากขึ้นนั่นเท่ากับว่ารัฐบาลก็จะมีรายได้มากขึ้นสำหรับนำไปบริหารประเทศในส่วนต่างๆทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
การแก้ปัญหาความยากจนและการลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของประชาชนในชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญนอกเหนือจากการเร่งให้เกิดผลผลิตของชาติให้สูงขึ้น
(GDP
ที่สูงแต่ประชาชนยังยากจน) เพราะว่าเป้าหมายที่แท้จริงของการพัฒนาเศรษฐกิจก็เพื่อเพิ่มมาตรฐานการดำรงชีพของประชาชนในชาติให้สูงขึ้น
ซึ่งภารกิจที่รัฐบาลควรทำคือ
1)
การทำให้รายได้เฉลี่ยต่อหัวเพิ่มสูงขึ้น
2)
การทำให้เกิดการจ้างงานที่สูงขึ้น
3)
รักษาระดับราคาให้เสถียรภาพ
4)
ดูแลดุลยภาพดุลการชำระเงิน
5)
ลดความเหลื่อมล้ำของรายได้
6)
กระจายการเติบโตเพิ่มตลาดลงสู่ส่วนภูมิภาค
ลดความแตกต่างระหว่างภูมิภาคกับเมือง
7) ขยายเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
การสร้างความเจริญเติบโตนั้นต้องอาศัยทั้งนโยบายการคลังและนโยบายการเงินเพื่อให้เกิดผลที่ที่มีประสิทธิภาพ
โดยภาษีอากรเป็นเครื่องมือหนึ่งของนโยบายการคลัง
ที่สามารถนำไปใช้เพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ
ในแง่ที่เป็นรายได้หลักของรัฐบาล
ซึ่งการใช้จ่ายของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายทางตรงหรือทางอ้อมโดยผ่านเงินอุดหนุน
หรือการใช้จ่ายในด้านสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การฝึกอบรม การสาธารณะสุข
และด้านอื่นๆ ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้นโยบายการเจริญเติบโตได้ผลตามเป้าหมาย
ความหมายที่แท้จริงของคำว่า
ภาษีอากร ในระบอบประชาธิปไตย จึงหมายความถึง เงินที่ประชาชนร่วมกันจ่ายเพื่อจ้างรัฐ
ให้รัฐดำเนินนโยบายบริหารประเทศด้านต่างๆ
เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนโดยส่วนรวม
ผลประโยชน์ของการบริหารงบประมาณภาษีอากรต้องส่งผลกลับคืนสู่เจ้าของเงินคือ ประชาชน
กล่าวโดยสรุปได้ว่า
ภาษีอากร
เป็นสิ่งที่ประชาชนร่วมกันจ่ายเพื่อจ้างรัฐ
ดังนั้น ภาษี จึงยังคงเป็นเงินของประชาชน ไม่ใช่เงินของรัฐ เพียงแต่เจ้าของเงินคือประชาชนอนุญาตให้รัฐนำเงินส่วนนี้ไปบริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชน และข้าราชการรวมถึงลูกจ้างในหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจทั้งหลาย จึงเป็นลูกจ้างของประชาชน นอกจากนี้ทรัพย์สินต่างๆที่เป็นของรัฐ เจ้าของที่แท้จริงก็คือ ประชาชนนั่นเอง